หลักสูตรการบริหารจัดการการเปลี่ยนผ่านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
(Climate Change)
ทำให้นานาประเทศมีความพยายามในการกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเข้มข้นมากขึ้น
การประชุมสมัชชาประเทศภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่
26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์
ประเทศสกอตแลนด์
มีการบรรลุข้อตกลงเพื่อควบคุมปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการผลักดันให้ยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
รวมถึงประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมย์ในการยกระดับการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี
ค.ศ. 2050
และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี
ค.ศ. 2065
ในการประกาศนี้ส่งผลต่อทั้งภาคอุปสงค์และอุปทานทางด้านพลังงานของประเทศไทยโดยตรงทำให้ประเทศต้องปรับตัวและทำการเปลี่ยนผ่านพลังงาน
(Energy Transition)
จากการใช้พลังงานหลักจากฟอสซิลมาเป็นพลังงานสะอาดอย่างเร่งด่วนในเวลาอันรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีการประกาศจากสหภาพยุโรป
(EU)
เกี่ยวกับมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน
หรือ Carbon Border Adjustment Mechanism
(CBAM) ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลก
รวมทั้งประเทศไทยกำลังวิตกกังวลเนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวจากการส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรปที่ต้องเผชิญกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด
โดยมาตรการ CBAM
ดังกล่าวจะส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมที่ส่งออกสินค้าที่มีใช้พลังงานจำนวนมากในการผลิตมีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม
หรือ “ค่าปรับ”
ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากสินค้าเพื่อให้ได้มาตรฐานการผลิตที่ปลอดคาร์บอนตามที่รัฐบาลสหภาพยุโรปกำหนด
ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม
โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป
รวมทั้งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายระดับองค์กรข้ามชาติ
อาทิเช่น
อุตสาหกรรมยานยานต์และชิ้นส่วนยานยนต์
อุตสาหกรรมแก้ว และอุตสาหกรรมกระจก
เป็นต้น
จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกติกาโลกในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
ตลอดจนกฎเกณฑ์การกีดกันทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้นดังที่กล่าวมาข้างต้น
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มผู้ประกอบการในประเทศไทยในภาคผลิต
การค้า และส่งออกรวมถึงหน่วยงานภาครัฐ
รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ
และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงนี้
ศูนย์วิทยาศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมกับ
สมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย
(อาร์อี 100) และ
มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาขน
ได้ตระหนักและเล็งเห็นความจำเป็นนี้จึงได้มีความร่วมมือทางวิชาการในการพัฒนาหลักสูตร
“การบริหารจัดการการเปลี่ยนผ่านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
Energy Transition & Climate Change
Management (ETC)”
เพื่อให้ความรู้และพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้แก่ภาครัฐและเอกชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวเพื่อหาแนวทางในการรับมือและปรับตัวในการดำเนินการธุรกิจตามกติกาโลก
และเพิ่มศักยภาพในการแข่งกันทางการค้าในตลาดโลกต่อไป วัตถุประสงค์
เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ
ด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้แก่ภาครัฐและเอกชน
และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับตัวและหาแนวทางในการดำเนินการธุรกิจตามกติกาโลกในช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงาน
และเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างภาครัฐและเอกชน
เพื่อร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
และองค์กรของตนเอง
และเสริมสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรต่างๆ